#เรื่อง “แสดงคติสมบูรณ์” ให้กระทำกลับคืน ศัพท์ ใยฝ้าย ‹ ?“เมื่อไม่อาจทำปรารภ แต่ว่า เราท่าน ให้มาพากันระลึก , หากว่ากล่าวดังนี้ ตามความข้อเรื่อง ไปเสียบ้าง ก็จะต้องให้คิดถึงสิ่งวิเศษ หรือคนดีวิเศษ ที่มีแต่สิ่งวิเศษประเสริฐดี มากๆ แต่ว่า เรื่องราวของท่านทั้งปวงเหล่านั้น กลับให้คนพบเห็นได้ น้อย , ซึ่งผิดกันกับคุณวิเศษ หรือปกติในสิ่งเลิศ ซึ่งวิเศษดีของท่าน ที่ท่านมีอยู่ ลงแต่ เป็นตัวอย่าง ที่เรา จะต้องคิดพิจารณาถึงพระปัจเจกพุทธเจ้า เป็นอาทิ มาเป็นต้น ซึ่งท่านมัก ไม่ปรากฏเรื่องราวของท่าน ให้ใครพบเห็น ณที่ใดแต่ว่าพระธรรม คำสอน บทคิดพิจารณา ตามพระคัมภีร์ กล่าวถึง , ไปแล้วนี้ หากเมื่อใด? ควรที่เราจะ มอบตนไปสู่ความเชื่อ ข้อเชื่อ และแลดูถึง ความสถิตย์ให้คนมีสติปัญญา โดย บทศัพท์ ดั่งที่เราจะพากเพียรฝึกฝนไปให้ท่านทราบได้ บ้างแล้วนั้น เราเอง ก็ว่าเราชอบ ที่ตนจะไม่ต้องมามัวเสพวิราคะ แต่ว่า ตนก็จะได้แต่ มีแต่การอยู่เสพวิมุต ไปอย่างเช่นกัน กับท่านบ้าง” (กระทำกลับคืน กระทำสมบูรณ์ คำว่า “ใยฝ้าย” ดูอ้าง rb.gy/xcqiu6 )
#เรื่อง “แสดงคติสมบูรณ์” ให้กระทำกลับคืน ศัพท์ สรงสนาน ‹ ?“ปริยายที่กล่าว ไปโดยมุขนัย โดยที่แท้ จะว่ากระไรไป ชาวบ้าน คิดนึก ก็พูดไม่ได้ เพราะว่า พูดถูก หรือพูดผิด ขี้คร้าน ก็แต่จะโดนท่านสาป ไปอยู่ทั้งหมด ทั้ง ๒กรณี , เพราะว่า ออกจากปากของชาวบ้าน ก็ว่าเป็นกิจของชาวบ้านย่อมสาปว่า จงอย่าพูดเลย ยิ่งพวกอุบาสิกานั่นด้วยแล้ว ก็ยิ่งอย่าให้เข้ามาพูดเลย เพราะว่า เมื่อเห็นมีรูป อันต่างด้วยเพศบวช เรื่องยิ่งมาตุคาม จะมาให้เห็น จะพูด ท่านก็ต้องยิ่งรังเกียจ แล้ว ฉะนั้น ก็ยิ่งไม่มีทาง ยิ่งไม่มีการพูดการกล่าวการวิเคราะห์ วิจัย ไปให้บทสิกขา พระธรรม จำเริญดีในฝ่ายปริยัติดังนี้ เรื่องสิกขา การอาบน้ำเป็นต้น คงจะมีการแสดงอย่างเรื่อง แถลงอุปมาโวหาร ธรรม ของเรื่องสัปดาห์ นั่นเอง อะไร ก็ซึ่ง ยกว่า ทั้ง๗ ทั้ง๗ แล้วก็ทั้ง๗ สูงกลางต่ำ แลกว้างแคบลึก แปลว่าสถาพร ทุกวัน , อย่างเรื่องสิกขาการอาบน้ำ ไม่จริง ที่แท้เป็นมุขนัย ครือ ๆ แต่เรื่อง ยอมว่า แล้วแต่ท่านจะสาปให้ไปทางไหน ก็คือสิกขาบทเช่นกล่าวนี้ สรูปว่า ก็คือมิต้องอาบ ไปตลอดทุกปักษ์ นั่นเอง ความ๑๔-๑๕วาระเดือนเพ็ญ โวหาร หรือกำหนดด้วยมุข ตามบาทตามบทแต่ที่จะสาป แก่ผู้ที่ซึ่งเข้ามาอยู่ด้วยเกล้า ด้วยร่มบารมีคือ พวกชาวบ้านเรา ย่อมเห็นอยู่ชัด ๆ ว่า ไม่เห็นท่านทำจริง ๆ แล้วทำเหมือนไม่รู้ไม่สนใจเลย ด้วยกระไรไป เหมือนกะไม่มีศีลสิกขาบทนี้ แม้นแต่ในอากาศ เพราะว่าจะอาบน้ำ ก็อาบได้เสมอ ตลอดเวลา เพราะมิได้ห้าม และไม่ได้เห็นเป็นเรื่องผิดบาป หรือว่ามีคุณมีโทษ แต่ประการไรเลย เว้นแต่ผู้บารมีจะสาปให้เป็นร้ายดี อย่างไรอย่างหนึ่งไปเอง แก่การฝึก หรือคว่ำบาตรไม่ให้รับฝึก , ก็เมื่อดูและรู้สึกตาม ไปกับข้อนี้ ก็ย่อมเกิดการกระเดียดแล้ว ว่าจริง ๆ วิจัยแก่สิกขาบทนี้คืออะไร อันด้วยมิข้าม มิขวาง แล้วธำรง รณรงค์ อยู่ด้วยข้อนั้นจริง ๆ ,จึ่งเป็นเอาว่า มนุษย์หมู่เรา หารู้แต่ส่วนที่ไม่มีวิเศษ กันมากมาเป็นส่วนใหญ่ มาเป็นแรมร้อย แรมพันปีแล้ว ที่ท่านมุ่งจะรอคนมีคุณ คนซึ่งมีบุญได้มาให้ยกวิจัย , ซึ่งรวมถึงเรื่องอาณัติสัญญาติกะ แลถึงเรื่องพินทุสามจุด เพื่อกำหนดแปลนนา ซึ่งยังมิเคยมีใครได้กระทำวิจัย อย่างชนิดที่ว่า จะให้ไปถึงธรรมวิเศษ ของพระธรรมจักร ที่เป็นธรรมของพระพุทธเจ้าพระองค์นี้ จริง ๆ พวกมนุษย์หมู่เรานี้ จะยังคงมิได้ตั้งหน้า เอาความ อันความ จะศึกษากันไป ให้ถึงส่วนวิเศษ” (กระทำกลับคืน กระทำสมบูรณ์ คำว่า “สรงสนาน” ดูอ้าง rb.gy/h7htrm )
コメントを投稿
2 件のコメント:
#เรื่อง “แสดงคติสมบูรณ์” ให้กระทำกลับคืน ศัพท์ ใยฝ้าย ‹ ?
“เมื่อไม่อาจทำปรารภ แต่ว่า เราท่าน ให้มาพากันระลึก , หากว่ากล่าวดังนี้ ตามความข้อเรื่อง ไปเสียบ้าง
ก็จะต้องให้คิดถึงสิ่งวิเศษ หรือคนดีวิเศษ ที่มีแต่สิ่งวิเศษประเสริฐดี มากๆ แต่ว่า เรื่องราวของท่านทั้งปวงเหล่านั้น กลับให้คนพบเห็นได้ น้อย , ซึ่งผิดกันกับคุณวิเศษ หรือปกติในสิ่งเลิศ ซึ่งวิเศษดีของท่าน ที่ท่านมีอยู่
ลงแต่ เป็นตัวอย่าง ที่เรา จะต้องคิดพิจารณาถึงพระปัจเจกพุทธเจ้า เป็นอาทิ มาเป็นต้น ซึ่งท่านมัก ไม่ปรากฏเรื่องราวของท่าน ให้ใครพบเห็น ณที่ใด
แต่ว่าพระธรรม คำสอน บทคิดพิจารณา ตามพระคัมภีร์ กล่าวถึง , ไปแล้วนี้ หากเมื่อใด? ควรที่เราจะ มอบตนไปสู่ความเชื่อ ข้อเชื่อ และแลดูถึง ความสถิตย์ให้คนมีสติปัญญา โดย บทศัพท์ ดั่งที่เราจะพากเพียรฝึกฝนไปให้ท่านทราบได้ บ้างแล้วนั้น เราเอง ก็ว่าเราชอบ ที่ตนจะไม่ต้องมามัวเสพวิราคะ แต่ว่า ตนก็จะได้แต่ มีแต่การอยู่เสพวิมุต ไปอย่างเช่นกัน กับท่านบ้าง” (กระทำกลับคืน กระทำสมบูรณ์ คำว่า “ใยฝ้าย” ดูอ้าง rb.gy/xcqiu6 )
#เรื่อง “แสดงคติสมบูรณ์” ให้กระทำกลับคืน ศัพท์ สรงสนาน ‹ ?
“ปริยายที่กล่าว ไปโดยมุขนัย โดยที่แท้ จะว่ากระไรไป ชาวบ้าน คิดนึก ก็พูดไม่ได้ เพราะว่า พูดถูก หรือพูดผิด ขี้คร้าน ก็แต่จะโดนท่านสาป ไปอยู่ทั้งหมด ทั้ง ๒กรณี , เพราะว่า ออกจากปากของชาวบ้าน ก็ว่าเป็นกิจของชาวบ้านย่อมสาปว่า จงอย่าพูดเลย ยิ่งพวกอุบาสิกานั่นด้วยแล้ว ก็ยิ่งอย่าให้เข้ามาพูดเลย เพราะว่า เมื่อเห็นมีรูป อันต่างด้วยเพศบวช เรื่องยิ่งมาตุคาม จะมาให้เห็น จะพูด ท่านก็ต้องยิ่งรังเกียจ แล้ว ฉะนั้น ก็ยิ่งไม่มีทาง ยิ่งไม่มีการพูดการกล่าวการวิเคราะห์ วิจัย ไปให้บทสิกขา พระธรรม จำเริญดีในฝ่ายปริยัติ
ดังนี้ เรื่องสิกขา การอาบน้ำเป็นต้น คงจะมีการแสดงอย่างเรื่อง แถลงอุปมาโวหาร ธรรม ของเรื่องสัปดาห์ นั่นเอง อะไร ก็ซึ่ง ยกว่า ทั้ง๗ ทั้ง๗ แล้วก็ทั้ง๗ สูงกลางต่ำ แลกว้างแคบลึก แปลว่าสถาพร ทุกวัน , อย่างเรื่องสิกขาการอาบน้ำ ไม่จริง ที่แท้เป็นมุขนัย ครือ ๆ แต่เรื่อง ยอมว่า แล้วแต่ท่านจะสาปให้ไปทางไหน ก็คือสิกขาบทเช่นกล่าวนี้ สรูปว่า ก็คือมิต้องอาบ ไปตลอดทุกปักษ์ นั่นเอง ความ๑๔-๑๕วาระเดือนเพ็ญ โวหาร หรือกำหนดด้วยมุข ตามบาทตามบทแต่ที่จะสาป แก่ผู้ที่ซึ่งเข้ามาอยู่ด้วยเกล้า ด้วยร่มบารมี
คือ พวกชาวบ้านเรา ย่อมเห็นอยู่ชัด ๆ ว่า ไม่เห็นท่านทำจริง ๆ แล้วทำเหมือนไม่รู้ไม่สนใจเลย ด้วยกระไรไป เหมือนกะไม่มีศีลสิกขาบทนี้ แม้นแต่ในอากาศ เพราะว่าจะอาบน้ำ ก็อาบได้เสมอ ตลอดเวลา เพราะมิได้ห้าม และไม่ได้เห็นเป็นเรื่องผิดบาป หรือว่ามีคุณมีโทษ แต่ประการไรเลย เว้นแต่ผู้บารมีจะสาปให้เป็นร้ายดี อย่างไรอย่างหนึ่งไปเอง แก่การฝึก หรือคว่ำบาตรไม่ให้รับฝึก , ก็เมื่อดูและรู้สึกตาม ไปกับข้อนี้ ก็ย่อมเกิดการกระเดียดแล้ว ว่าจริง ๆ วิจัยแก่สิกขาบทนี้คืออะไร อันด้วยมิข้าม มิขวาง แล้วธำรง รณรงค์ อยู่ด้วยข้อนั้นจริง ๆ ,
จึ่งเป็นเอาว่า มนุษย์หมู่เรา หารู้แต่ส่วนที่ไม่มีวิเศษ กันมากมาเป็นส่วนใหญ่ มาเป็นแรมร้อย แรมพันปีแล้ว ที่ท่านมุ่งจะรอคนมีคุณ คนซึ่งมีบุญได้มาให้ยกวิจัย , ซึ่งรวมถึงเรื่องอาณัติสัญญาติกะ แลถึงเรื่องพินทุสามจุด เพื่อกำหนดแปลนนา ซึ่งยังมิเคยมีใครได้กระทำวิจัย อย่างชนิดที่ว่า จะให้ไปถึงธรรมวิเศษ ของพระธรรมจักร ที่เป็นธรรมของพระพุทธเจ้าพระองค์นี้ จริง ๆ พวกมนุษย์หมู่เรานี้ จะยังคงมิได้ตั้งหน้า เอาความ อันความ จะศึกษากันไป ให้ถึงส่วนวิเศษ” (กระทำกลับคืน กระทำสมบูรณ์ คำว่า “สรงสนาน” ดูอ้าง rb.gy/h7htrm )
コメントを投稿