2020年7月28日火曜日

Rueang Chaya Phra 00:11


❝Siamese Language …

1 件のコメント:

Searched message 2 さんのコメント...

#เรื่อง “แสดงคติสมบูรณ์” ให้กระทำกลับคืน ศัพท์ สุคโตวาท ‹ ?

“ปัญหาโดยรวมก็คือ เหมือนกับว่า คนสมัยนี้ จะพูดว่า ตัวเองจะขอพ้นจากความเป็นพระพุทธเจ้า หรือ พระเจ้าจักรพรรดิ์ ได้อย่างไร? เพราะโลกเรา เหมือนดั่งเต็มพะเรออยู่ ไปด้วยความสุข กันเสียหมดทั้งสิ้นแล้ว ไม่เหมือนอย่างกับที่ เราท่าน จะกล่าวลอย ๆ ไปอย่างนั้นได้ และเพราะว่า พระภิกษุที่มีชื่อเสียง และจรณะ ตั้งแต่ดั้งเดิม ท่านก็แสดงตน ว่าตนเอง เป็นองค์ ผู้มุ่งไปถึงการตัดขาด ขอความไม่เป็นพระพุทธเจ้า

ทั้ง ๆ ที่กล่าวโดย ภาค โดย สภาค หรือ วิสภาค ตัวองค์ท่าน ก็จะ ไม่ให้เห็นเลย ว่ากายบริโภค อันคือกายธรรมของพระพุทธเจ้า เป็นโดยพุทธกัป เหล่านี้ เป็นจริงอยู่ จึงจะให้ขาดไปแท้ จะได้อย่างไร , มาถึงเรื่องรูปปั้น หรือ รูปแทน สุคติ ของชน ผู้เป็นทุคตะ กระทำ เขาก็ตั้งไหว้มเหศักดิ์ องค์พระจักรพรรดิ์ ไปดั่งนั้นเอง ไม่เห็นได้ให้เหมือนตั้งองค์ภิกษุ นักบวช อะไร? คือกำหนดรูปพระพุทธเจ้าเป็นรูปสตรี! ครั้งเมื่อมาฟังคำว่า ‘พุทธังกูร’ อันก็ควรจะต้องรับท่าทีของฝ่ายสังสกฤต เข้ามารวมกันเข้า อันนี้เราก็ต้องแปร่ง ๆ เพราะการเงื้อง่าปรารมภ์ ปรารภหาเหตุ นั้น ๆ ครั้งควรจะต้องแบ่งแยก คนย่อม จะต้องไม่ไป ร่วมงานตามเครื่องมืออันสมัยใหม่ ๆ ที่พวกเรา ตั้งตัว เกณฑ์กัน จะไปตามจินตนาการ กันอยู่ในสมัยสงฆ์สาวกมาถึงวันนี้

ฟังดูแล้ว จึงเหมือนดั่งไร้สาระ หาความจริงไม่พบ เพราะความตั้งรังเกียจ ที่เกิดขึ้น ย่อมจะมีแต่คนไม่อยากเป็นพระพุทธเจ้า ไปหมดทั้งนั้น เพราะเรื่องย่อมทุกข์ประหลาด เพราะเรื่องและคติ! ให้มีแง่มุมเคลือบคลุม แอบแฝง อยู่ไม่จบ ฉะนั้น เช่นนั้น เรื่องพระปัจเจกพุทธเจ้า จึงควรน่าจะเป็นจริงมากกว่า และน่ารับฟังมากกว่าได้ เพราะไม่มีรูปแบบด้วยมายาที่ไหนๆ อันต้องโจทก์ ก็ถ้าเมื่อไม่มีท่านมาปรากฏ ในความจริง ความซึ่งก็เห็น ๆ กันแล้วว่า พระพุทธเจ้าพระองค์เองไปเลียนแบบพระปัจเจกพุทธเจ้ามาตังคะ โดยไม่ได้ตั้งใจ โดยผ่านรูปแบบที่มีทางสังคม แต่เรื่องตีขลุมกันขนานใหญ่ เพื่อเข้าโยงกระบวนการทางสังคม และการสมาคม โดยคู่ขนานกันไปกับพราหมณ์ ก็จึงต้องว่าอีกแบบ โดยยกระเบียบราชการอันที่ซับซ้อนกว่า ว่า คือเรื่องของการเป็นพระสัพพัญญู แต่ว่าใครเล่า? หากเขาเป็นอรหันต์ แล้วเขาก็ไม่ต้องเป็นพระสัพพัญญู หรือใครเป็นพราหมณ์ สำเร็จคุณโดยเบื้องสูง ก็ต้องได้อยู่ในที่ ๆ พระพุทธเจ้าไม่ทรงไปอุบัติ เป็นที่สถิตย์

อันนี้ ถ้าโดยกระทำปฏิญาณ ก็น่าจะสรุปได้ว่า จะหาสำเร็จตบะ จะหาบรรลุสัจจะ หรือสิ่งใดจะถึงสิ้นมโนรถ ได้สมปรารถนาแล้ว ก็จะต้องมีที่พึ่ง คืออาศัยมีสิ่งชักพา นำพาตนเองไป , ในเรื่องนี้ ขออธิบายความเคลือบแฝง ที่ปรากฏมีมา ที่อาจลากพากันไปหาสังสกฤตนั้น ด้วยคำเหล่านี้ ซึ่งก็นับว่าน่าฟัง แต่ก็อาจจะพาจินตนาการ ให้คนเพริศจิตไปลงในทางเพ้อเจ้อได้ มิสู้ คำศัพท์ คำว่า ‘พระโลกนาถเจ้า’ ดั่งนี้ว่าได้ ซึ่งฟังแล้ว ย่อมได้สิ่งโน้มใจ ได้หนทางไหลมา ซึ่ง สุคโต ศัพท์ อันที่เป็นบท ‘สุคโตวาท’ อันพรั่งพร้อม เปี่ยมล้น ไปยิ่งกว่า องค์ศัพท์ ตามความด้วยบทแบบสังสกฤต จะรังสรรค์ ที่มักว่ากล่าว กันโดยความเป็น พระพุทธางกูร แห่งบทใหญ่ๆ ในไพรสณฑ์ ที่เพ้อ และเพริศ มากเกินกว่า เรื่องโพธิ ไปอีกตั้งไกล” (กระทำกลับคืน กระทำสมบูรณ์ คำว่า “สุคโตวาท” ดูอ้าง rb.gy/ft0wq8 )

Due which names are the same Just bypassed it …